หากคิดถึงกลไกการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ สิ่งที่นึกถึงในลำดับแรกๆก็คงไม่พ้นเกียร์รถยนต์ เกียร์มีหน้าที่ในแปลงกำลังจากเครื่องยนต์ ผ่านไปยังชุดเกียร์เพื่อการตัดต่อกำลัง และส่งกำลังผ่านไปยังที่ล้อ เพื่อวัตถุประสงค์ในการขับเคลื่อน ในปัจจุบันรถบนท้องถนนส่วนใหญ่เป็นรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ด้วยความสะดวกสบายที่มากกว่ารถเกียร์ธรรมดา และช่วยประหยัดเชื้อเพลิงที่มากกว่า หลายผู้ผลิตมีการออกแบบมาให้เกียร์มีความคงทนในระดับหนึ่ง แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป หากผู้ขับใช้งานไม่ถูกต้อง หรือดูแลรักษาไม่ดีพอ อาจทำให้เกียร์สึกหรอเร็วขึ้น และอายุการใช้งานที่สั้นลง วันนี้เรามี ทริคการดูแลเกียร์ง่ายๆ 5 ข้อ มาให้เพื่อนๆกันครับ
ใช้ความเร็วให้สอดคล้องกับสภาพการจราจร การใช้ความเร็วสูงจะส่งผลให้เกียร์หมุนเร็วขึ้น และสะสมความร้อนมากขึ้นตามมาอีก ยิ่งการเชนเกียร์ลงเพื่อให้ได้ Engine Brake หรือแรงหน่วงจากเครื่องยนต์บ่อยๆ ก็จะยิ่งเพิ่มการสึกหรอให้กับชิ้นส่วนเกียร์มากยิ่งขึ้น
เพราะจะเป็นการล็อคชุดเกียร์ หากรถเกิดอุบัติเหตุถูกชนท้ายรถ อาจทำให้ตัวล็อคเฟืองเกียร์เสียหายได้ อีกทั้งการที่ใส่เกียร์ P อาจจะเกิดการสับสนเข้าเกียร์ผิด ดันไปเข้าเกียร์ R แทน ก็อาจจะทำให้รถของเราถอยไปชนรถคันข้างหลังได้ ดังนั้น เราควรใช้เกียร์ N และเบรกมือควบคู่ไปกันไปตามการเคลื่อนตัวของรถคันข้างหน้า และไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรก แล้วค้างอยู่ที่เกียร์ D นานๆอีกด้วย
การขับรถลากรอบนานๆทำให้เกียร์ทำงานหนักขึ้น และเสี่ยงต่อการสึกหรอเร็วขึ้น
หากจะขับรถถอยหลัง หรือจอด ควรให้รถหยุดนิ่งก่อน แล้วค่อยใส่เกียร์ R เพราะถ้าหากใส่เกียร์ R ตอนที่รถไม่สนิทอาจทำให้เฟืองเกียร์เสียหายได้
จริงๆแล้วน้ำมันเกียร์สามารถเสื่อมสภาพได้ และไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง ในกรณีที่แย่สุดคือ เกียร์ชำรุด และอาจจะต้องเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่ ซึ่งจะมีราคาที่ราคาแพงมาก สำหรับการถ่ายน้ำมันเกียร์ เราสามารถเช็คระยะเซอร์วิสได้จากคู่มือรถ อีกทั้งควรใช้น้ำมันเกียร์ให้ถูกต้องตามประเภทเกียร์ เพื่อปกป้องชิ้นส่วนของเกียร์ให้ใช้ได้นานยิ่งขึ้น